ข้อขัดแย้ง ของ การประเมินตัวเองหลัก (จิตวิทยา)

เมื่องานวิจัยในบทสร้างต่าง ๆ ของ CSE ได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้มีข้อคัดค้านที่สำคัญที่สุดต่อทฤษฎีสองอย่าง

ทฤษฎี

ทฤษฎีของ CSE เป็นเรื่องทางนามธรรมโดยล้วน ๆ[46]ซึ่งอ้างว่า การประเมินตัวเองอย่างพื้นฐาน (คือ CSE) ในระดับจิตใต้สำนึกอาจมีอิทธิพลต่อการประเมินอื่น ๆ เกี่ยวกับตนโดยมากและเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม[1]ดังนั้นจึงยากที่จะตรวจสอบโดยการทดลองทั้งลักษณะของ CSE และผลใต้จิตสำนึกต่อลักษณะย่อยอื่น ๆ เช่นที่ตั้งการควบคุม (locus of control) ความไม่เสถียรทางอารมณ์ (neuroticism) ความมั่นใจในความสามารถของตน (self-efficacy) และความภูมิใจในตน (self-esteem)นอกจากนั้นแล้ว ยังไม่ชัดเจนว่า ทำไมทฤษฎีนี้จึงมีมิติเพียงแค่ 4 มิติ คือไม่มีน้อยหรือมากกว่านั้น[46]

  • ที่ตั้งการควบคุม (locus of control) ในเบื้องต้นไม่ได้รวมอยู่ใน CSE[1] แต่ต่อมาเพิ่มขึ้นเนื่องจากผ่านเกณฑ์ที่งานวิจัยปี 2540 ได้ตั้งขึ้น[1] ว่าเป็นลักษณะของ CSE อย่างหนึ่ง[12] และภายหลังแม้ว่าจะมีนักวิจัยบางท่านที่คิดว่ามันเกี่ยวกับตนน้อยกว่าตัวแปรอื่น ๆ เพราะมีเรื่องทางภายนอก แต่ก็ยังกลายเป็นส่วนของทฤษฎีด้วยเหตุผลหลัก 2 อย่าง คือ (1) แบบวัดของมันวัดสิ่งที่เกี่ยวกับตนหลายอย่าง และ (2) มันสัมพันธ์ทั้งทางแนวคิดและทางหลักฐานกับความมั่นใจในความสามารถของตนแบบทั่วไป (โดยงานวิเคราะห์อภิมานแสดงค่าสหสัมพันธ์ที่ .56 แม้ว่าจะเป็นค่าสหสัมพันธ์ที่ต่ำที่สุดระหว่างบรรดาลักษณะย่อยของ CSE ทั้งหลาย)[9][12]
  • ลักษณะอย่างอื่น ๆ เช่นการมองโลกในแง่ดีโดยนิสัย ก็ได้รับพิจารณาแต่ในที่สุดก็ไม่รวมในทฤษฎี[1] และเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องนี้ก็ไม่ชัดเจน แต่รวมเหตุผลว่าบทสร้างนี้ไม่มีการศึกษาเท่ากับบทสร้างอื่น ๆ[1][12]
  • ยังมีการเสนอด้วยว่า การมองโลกในแง่ดีโดยนิสัย (dispositional optimism) ไม่ได้ต่างไปจาก neuroticism หรือลักษณะนิสัยอย่างอื่น ๆ[1]

งานวิจัยในอนาคตควรตรวจสอบทฤษฎีโดยหลักฐานการทดลองมากขึ้น และแสดงให้ใชัดเจนว่า ลักษณะที่ควรจะรวมเข้ากับ CSE ควรจะเป็นเรื่องกว้างขวาง เป็นเรื่องพื้นฐาน เป็นการประเมินแค่ไหนก่อนที่จะรวม[46]

แนวคิดเกี่ยวกับ CSE แบบต่าง ๆ

มีงานวิจัยที่เคยเสนอว่า CSE เป็นลักษณะมูลฐาน (underlying, latent) ที่สามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างที่ตั้งการควบคุม neuroticism ความมั่นใจในความสามารถของตน และความภูมิใจในตน[3][12][13][19][26]แต่ว่า ก็ยังมอง CSE ได้ว่าเป็นบทสร้างประกอบ (aggregate construct) ซึ่งประกอบด้วยหรือสามารถพยากรณ์ได้ด้วยมิติของมัน 4 อย่างคือระดับลักษณะต่าง ๆ เหล่านั้นความจริงอาจจะเป็นตัวพยากรณ์ระดับ CSE แทนที่จะเป็นนัยตรงกันข้ามแนวคิดที่ต่างกันเช่นนี้มีผลสำคัญต่อการวัด CSEและดังนั้น จึงมีผลติดตามที่สำคัญในเรื่องที่พบเมื่อทำงานวิจัยในเรื่องนี้เพราะเหตุนี้ อาจจำเป็นต้องมีงานวิจัยเพิ่มขึ้นเพื่อตรวจดูความแตกต่างทางแนวคิดในเรื่องนี้[46]